
เรื่องเล่าความเป็นมาดั้งเดิมของโทโคลัวไม่ได้มีเรื่องเดียว เพราะโทโคลัวประกอบด้วยเกาะหินปะการังมากมายหลายเกาะ เรื่องเล่าความเป็นมาดั้งเดิมบางเรื่องก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเกาะหินปะการังทุกเกาะ ขณะที่บางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับเกาะใดเกาะหนึ่ง หรือสองเกาะเท่านั้น
มีเรื่องเล่าเก่าแก่เรื่องหนึ่งที่เล่าสืบทอดกันมานาน เกี่ยวกับที่มาของชื่อโทโคลัว โทโคลัวไม่ใช้ชื่อว่าเกาะแห่งโทโคลัว (the Tokelau Islands) อีกต่อไป แต่มีชื่อเพียงแค่โทโคลัวจากการเรียกขานของคนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานแรก ๆ ที่หินเกาะปะการังทั้งสาม พวกเขาเล่าขานเรื่องราวเกี่ยวกับ ลู ซึ่งเป็นเด็กคาถาวิเศษที่สามารถเหาะขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็เสกให้มีลมขึ้นมาให้พัดไปในทิศทางที่เป็นทิศทางลมปัจจุบัน คำว่า โทโคลัวจึงสัมพันธ์กับเกาะหินปะการังทั้งสามและหมายถึงลมที่พัดมาจากทิศเหนือในภาษาโพลีนีเซียน (Polynesian)
ส่วนเรื่องเล่าอื่น ๆ นั้นก็บอกกล่าวว่าเกาะหินปะการังแต่ละเกาะนั้นแตกต่างกันอย่างไร ตัวอย่างเช่น มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งบอกลักษณะเฉพาะของปลาประจำเกาะแต่ละเกาะ คือ ปลาฉลามเสือ (Kanaelauvaka) หมายถึง โอโลเฮจ (ซึ่งปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของซามัวอเมริกัน หรือ American Samoa), ปลาฉลาม (Mago) หมายถึงเกาะฟากาวโฟ, ปลาไหล (Puhi) หมายถึงเกาะนูคูนานู และปลาทิฟิทิฟิ (Butterly fish) หมายถึงเกาะอาทาฟู ในเรื่องปลาฉลามเสือ (Kanaelauvaka) ซึ่งเป็นปลาล่าเหยื่อ ซึ่งพ่ายแพ้ต่อปลาชนิดอื่น ๆ ที่เหลืออีก 3 ชนิด คือ ปลาฉลามแห่งฟากาวโฟจะจู่โจมที่บริเวณหัว, ปลาไหลแห่งนูคูนานู จะจู่โจมบริเวณลำตัว และปลาทิฟิทิฟิแห่งอาทาฟู จะเข้าจู่โจมตรงส่วนหาง นี่เองทำให้เกาะหินปะการังแต่ละเกาะมีความแตกต่างกัน และทำให้แต่ละเกาะมีลักษณะเฉพาะของตน
ในลักษณะเดียว มีเพลงเก่าแก่ที่แสดงความหมายของอาหารของทั้งสี่ของเกาะปะการัง คือ เนื้อมะพร้าวแห้ง (ทำให้แห้งอย่างช้าๆ ด้วยเปลือหอยที่ยังไม่แตก) เป็นอาหารของโอโลเฮกา (Olohega) เนื้อมะพร้าวชุ่มน้ำมันเป็นอาหารของฟากาวโฟ และผลไม้โนนู (nonu) เป็นอาหารของนูกูโนนูและเนื้อปลาสกิบแจ็คไม่ติดมันเป็นอาหารของอาทาฟู ประเทศโทโคลัวนั้นให้ความสำคัญกับคุณสมบัติที่แตกต่างของแต่ละเกาะ แต่ก็ไม่มีเรื้องลี้ลับใด ๆ เกี่ยวที่มาดังเดิมของสิ่งต่าง ๆ นั้น เนื้อเพลงมีว่าดังนี้ครับ:
เกาะหินปะการังแต่ละเกาะจึงมีลักษณะเฉพาะของตนที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณแตกต่างกัน ซึ่งแข่งขันหรือซึ่งมีการใช้กลอุบายต่าง ๆ ต่อกันและกันอยู่ในที เรื่องเฮมัวนากับเฟนูเป็นเรื่องเล่าที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุดที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณเหล่านี้ ในที่สุด ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับรากฐานการกำเนิดของคนแต่ละเกาะปะการังครับ แต่ละเกาะก็จะมีเรื่องเป็นของตนเอง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าชาวโทโคลัวไม่ได้ที่มาจากแหล่งเดียว แต่คนจากแต่ละเกาะหินประการังนั้นต่างก็มีต้นกำเนิดของตัวเองที่แตกต่างกัน